เก็กลกสี่ : พุทธสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 |
| ที่มา https://goldilockslifestyletravel.com |
"The world is full of marvels,
if you're willing to travel far enough to see them."
"โลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมาย
ถ้าหากคุณออกเดินทางไกลพอที่จะมองเห็นมัน"
ตอนนี้เดินทางกันมาถึงเรื่องที่ 4 แล้วนะคะ วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกๆท่าน ท่องดินแดนในฝัน ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา และเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆคน ที่มีเดินทางสะดวก ค่าครองชีพไม่สูงมากนัก และเป็นอีกประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวมากเช่นกัน นั่นก็คือประเทศ "มาเลเซีย" พูดถึงมาเลเซียแล้ว ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก
มาเลเซีย มีหลายเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แต่มีอยู่เมืองหนึ่งเป็นเมืองที่ฮิตในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ "ปีนัง" นั่นเอง ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเมืองเหล่านี้บ่อยครั้งจากละคร นวนิยาย การท่องเที่ยว ในสมัยก่อนบางครอบครัวจะส่งลูกหลานไปเรียนภาษาอังกฤษที่นี่
ปีนัง ได้รับสมญานามว่า "ไข่มุกแห่งตะวันออก" เป็นเมืองที่มีชายฝั่งทะเลที่สวยงามมาก และ เมืองนี้ก็เป็นเมือง "มรดกโลก" เมืองนี้เป็นเมืองที่ทีมีการผสมผสานวัฒนธรรมจากจีน อังกฤษ อินเดีย ได้อย่างลงตัว มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารนานาชาติที่ถูกปากใครหลายๆคน
ปีนัง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ อุทยานปีนังฮิลล์ เมืองเก่าจอร์จทาวน์ นอกจากนี้ยังมีวัดวาอารามมากมาย แต่ในวันนี้จะพาทุกๆท่านได้มารู้จักกับวัดหนึ่ง ที่เป็น วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ เป็นวัดชื่อดังของปีนัง นั่นก็คือ "วัดเก็กลกสี่" นั่นเอง
 ที่ตั้งวัดเก็กลกสี่ |
| ที่มา : http://www.penang-discovery.com |
วัดเก๊กลกสี่ (Kek Lok Si Temple ) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดเขาเต่า" ตั้งอยู่ที่เนินเขา Air Itam จอร์จทาวน์ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย คำว่า "Kek Lok Si" นั้น มีความหมายว่า "วัดความสุขสูงสุด" ในอดีตนั้นมีความเชื่อว่า สถานที่แห่งนี้เป็นฮวงจุ้ยที่ดีเหมาะแก่การสร้างวัด เพราะว่าตั้งอยู่บนเนินสูงที่โดดเด่น สามารถมองเห็นแต่ไกลจากเมืองจอร์จทาวน์ มีพื้นที่ 120,000 ตารางเมตร
การสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเกิดจาก การเดินทางมาของพระสงฆ์รูปหนึ่งนามว่า "Beow Lean" ในปี ค.ศ. 1885 โดยท่านมีเป้าหมายต้องการมาขอรับบริจาคเพื่อไปปรับปรุงวัดในประเทศจีน ต่อมา เจ้าอาวาสวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ถนนพิตต์สตรีท ได้มอบหมายให้ท่านสร้างวัดแห่งนี้ในปี ค.ศ.1893 จักรพรรดิแมนจูกวนซูอนุญาตให้สร้างวัดแห่งนี้และสนับสนุนแผ่นจารึกและพระไตรปิฎก 70,000 ฉบับแก่วัดแห่งนี้ และมีจักรพรรดิท่านอื่นๆที่ศรัทธาวัดแห่งนี้และร่วมบริจาคสิ่งของมากมาย
วัดแห่งนี้นอกจากจะมีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรมที่สวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมจีน อีกด้วย
ความโดดเด่นของวัดนี้ คือ มีการผสมผสานระหว่างศิลปะจีน ไทย และ พม่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผสมผสานระหว่าง ศาสนาพุทธแบบมหายานและศาสนาพุทธแบบเถรวาท และมีสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่สำคัญ คือ เจดีย์ และ รูปหล่อเจ้าแม่กวนอิม
การเดินทาง
- ด้วยรถประจำทาง 🚌 สาย 201 203 204 206 และ 306
- ด้วยรถTaxi 🚕
 |
| ระหว่างทางขึ้นไปวัด ที่มา : https://sanooktiew.com |
การเข้าชม
เวลาเข้าชม 🕖 : 07.00-21.00 น.
ค่าเข้าชม💰 : ไม่เสียค่าเข้าชม
✅ข้อแนะนำ
- ในการไปสถานที่นี้ ควรจัดโปรแรมไปวันเดียวกันกับ ปีนังฮิลล์ เพราะ อยู่เส้นทางเดียวกัน
- ควรไปเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ในช่วง 09.00 เพราะช่วงนี้คนจะไม่เยอะมาก
- ในช่วงวันตรุษจีน ทางวัดจะมีการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟหลายพันดวง
- ในช่วงกลางคืนมีการประดับประดาด้วยแสงไฟที่สวยงาม
- ถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะไม่เคร่งเรื่องการแต่งกาย แต่ควรแต่งกายให้สุภาพ ถูกต้องตามกาลเทศะ
วัดเก๊กลกสี่แห่งนี้มี 3 ส่วนหลักๆ 👇
- ส่วนล่าง ทางเข้า ร้านขายของที่ระลึก และสระเต่า
- ส่วนกลาง วัด สวน เจดีย์ รูปปั้นจตุโลกบาล
- ส่วนบน ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม วัดและสวน
ทางเข้าและสระเต่า
 |
| ร้านขายของที่ระลึก ที่มา: http://kekloksitemple.com |
 |
| สระเต่า ที่มา : http://kekloksitemple.com |
 |
| บทกวีที่สลักบนหินกลมขนาดใหญ่ ที่มา: https://sanooktiew.com |
ทางเข้าจะมีร้านแผงลอยขายของที่ระลึกตั้งอยู่ทั้งสองข้างทาง และ สระเต่า ：ซึ่งสามารถซื้ออาหารเลี้ยงได้ ในราคา 1 ริงกิต ( ประมาณ 8 บาท) และมีจุดหนึ่งที่ห้ามพลาด คือ บทกวีที่สลักบนหินกลมขนาดใหญ่ ที่เขียนโดยนักปราชญ์ในราชวงศ์ถัง
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
 |
| รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่มา : https://sanooktiew.com |
 |
| ชมวิวเมืองจอร์จทาวน์ ที่มา: https://sanooktiew.com |
 |
| sky lift เพื่อขึ้นไปชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่มา : https://migrationology.com |
ในการขึ้นไปชมเจ้าแม่กวนอิมนั้น สามารถเดินขึ้นบันได หรือขึ้น sky lift ได้ ใช้บริการ sky lift ที่ชมเจดีย์ เสียค่าบริการ 2 ริงกิต (ประมาณ 15 บาทไทย ขึ้นกับค่าเงินในขณะนั้น) โดยใช้เวลา 1 นาที เมื่อมาถึงเราจะเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่หล่อด้วยสำริด สูง 30.2 เมตรประดิษฐานอยู่บนยอดเขา หันหน้าเข้าเมืองจอร์จทาวน์ เพื่อปกป้องรักษาเมืองให้สงบสุข จะมีศาลาแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ล้อมรูปปั้น รวมทั้งศาลาและเจดีย์เล็กๆ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเมืองจอร์จทาวน์อีกด้วย
เจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์)
 |
| เจดีย์สมเด็จพระรามหก ที่มา : https://en.wikipedia.org |
 |
| ภายในเจดีย์ที่มา : https://migrationology.com |
เจดีย์แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 20 ปี และสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2473 เจดีย์แห่งนี้ตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาว 10,000 องค์ ลักษณะตัวเจดีย์ มีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน และ พม่า เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว คือ ใช้ฐานแบบตามรูปแบบศิลปะจีน ตรงกลางสร้างแบบไทย และส่วนบนที่เป็นยอดเป็นศิลปะแบบพม่า ภายในมี 7 ชั้น สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ และข้างในมีการตกแต่งด้วยจิตรกรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เป็นจุดที่สำคัญมาก ห้ามพลาดเลยทีเดียว ถ้าพลาดแล้วถือว่ามาไม่ถึงวัดเก็กลกสี่
ห้องสวดมนต์
 |
| รูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ที่มา :http://www.malaysiafanclub.com |
 |
| พระประธาน ที่มา :http://www.malaysiafanclub.com |
 |
| เจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา ที่มา : http://www.malaysiafanclub.com |
 |
| เจ้าแม่กวนอิม ที่มา : http://www.malaysiafanclub.com/kek-lok-si/ |
ห้องสวดมนต์นี้ จะจัดแสดง ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 พระประธาน รวมทั้งเจ้าแม่กวนอิม
จุดขอพร
 |
| ริบบิ้นขอพร ที่มา :https://sanooktiew.com |
 |
| เทียนในโหล ที่มา :https://sanooktiew.com |
สวนภายในวัด
 |
| บ่อปลาและสวนหย่อม ที่มา: http://www.penang.ws |
 |
| สวนหย่อมเล็กๆ ที่มา : https://sanooktiew.com |
มุมอื่นๆภายในวัด
 |
| ภาพวัดจากมุมสูง ที่มา : https://sanooktiew.com |
 |
| กำแพงพระพุทธรูป ที่มา: http://mylifevialens.blogspot.com/ |
 |
| รูปปั้นพระพุทธเจ้า ที่มา : http://mylifevialens.blogspot.com |
 |
| บรรยากาศโดยรวมของวัด ที่มา :http://mylifevialens.blogspot.com |
นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายจุด เช่น กำแพงพระพุทธรูป รูปปั้นพระพุทธเจ้า เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า วัดเก็กลกสี่ นั้น เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเมืองปีนัง เป็นศูนย์รวมชาวพุทธในมาเลเซียและประเทศใกล้เคียง เป็นวัดพุทธที่สวยงามมากที่หนึ่ง มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธนิกายมหายานและหินยานได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ ยังมีเจดีย์ที่มีรูปร่างไม่เหมือนใคร และมีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่า จีนได้อย่างลงตัว จึงอยากเชิญชวนทุกท่านที่สนใจและอยากชมความงามและยิ่งใหญ่ของวัดแห่งนี้ ได้มาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ ซึ่งการเดินทางมาสถานที่แห่งนี้นั้นไม่ยากเลย อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก สถานที่แห่งนี้ไม่อยากให้พลาด เมื่อท่านได้มาปีนัง นอกจากท่านจะอิ่มบุญแล้ว ยังอิ่มอกอิ่มใจ เพราะได้เสพงานศิลป์ที่สวยงามในวัดแห่งนี้
สัปดาห์หน้าจะพาทุกท่านไปท่องแดนในฝันที่ไหนกันนะ?? ฝากติดตามด้วยนะคะ 😊
ขอขอบคุณทุกแหล่งข้อมูลอ้างอิง 🙏👇
พลังธรรม.(มปป).เที่ยวชมวัดเก็กล๊กซี สุดยอดงานพุทธศิลป์ บนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย.สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2561, จาก http://www.palungdham.com
Malaysia Fan club .(2012).วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) วัดจีนพุทธ นิกายมหายาน ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย.สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2561, จาก http://www.malaysiafanclub.com
Malaysia travel.(มปป).เก็กลกสี่ (Kek Lok Si).สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2561, จากhttp://www.malaysia.travel
Sakuna Siriboonpipattana .(มปป).ความอลังการของ วัดเขาเต่า ปีนัง (Kek Lok Si Temple) กับ วีรกรรมของหยก.สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2561, จากhttps://sanooktiew.com
Kek Lok Si Temple.(n.d.).Kek Lok Si Temple. Retrieved October 4, 2018, from
http://kekloksitemple.com
http://kekloksitemple.com
Mark Wiens .(n.d.). How to Visit Penang’s Kek Lok Si Temple (and What to Eat). Retrieved October 4, 2018, from https://migrationology.com
Penang Discovery Travel Guide.(n.d).Penang Attraction - Kek Lok Si Temple.Retrieved October 4, 2018, from http://www.penang-discovery.com
Penang Vacation.(n.d.).Kek Lok Si - The MajesticTemple Of Penang.Retrieved October 4, 2018, from http://www.penang-vacations.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น