สำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่อง บุโรพุทโธ ตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ปี 2525-2562 (ตอนที่ 1)
สวัสดีค่ะ ห่างหายกันไปนานมากโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง กับเรื่องราวและสาระความรู้ดีๆ จากบล๊อค"ท่องแดนในฝันในอาเซียน" นะคะ มาครั้งนี้ไม่ได้มามือเปล่า เรานำสาระความรู้ดีๆมาฝาก จะเป็นเรื่องอะไรนั้นเชิญรับชมต่อไปได้เลยค่าาา👇
สำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่อง บุโรพุทโธ ตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ปี 2525-2562
ทำไมถึงอยากสำรวจสถานภาพความรู้เรื่องบุโรพุทโธ?
![]() |
https://www.winnews.tv/news/12498 |
บุโรพุทโธเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอินโดนิเซียและเมืองยอร์กยากาตาร์ เป็นพุทธสถานที่ได้รับอิทธิพลจากนิกายพุทธมหายาน ซึ่งทำให้มีรูปแบบศิลปะแบบฮินดู-ชวา หรือที่เรียกว่าศิลปะชวาภาคกลาง มีการผสมสานระหว่างศิลปะแบบอินเดียและอินโดนิเซียได้อย่างลงตัวและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
บุโรพุทโธสร้างด้วยหินภูเขาไฟ เป็นรูปทรงพีระมิดบนฐานสี่เหลี่ยม องค์เจดีย์มีลักษณะเป็นรูปดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ทั้งนี้บุโรพุทโธถือได้ว่าเป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 14 ในสมัยพระเจ้าไศเลนทร์แห่งอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และประชาชนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาพุทธมหายาน ทำให้เกาะชวาได้กลายเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ และมีการสร้างบุโรพุทโธ เพื่อเป็นศูนย์รวมความศรัทธาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาวศรีวิชัยเรื่อยมา และเมื่ออิทธิพลของศาสนาอิสลามเข้ามาทำให้พุทธสถานแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานับหลายร้อยปี จนกระทั่ง เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ได้ค้นพบบุโรพุทโธอีกครั้งในสภาพที่ถูกทิ้งร้างมานานและมีซากปรักหักพังมากมาย จึงทำการบูรณะเป็นครั้งแรก และต่อมา รัฐบาลอินโดนิเซียได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การยูเนสโกและนานาประเทศ ทำให้บุโรพุทโธกลับมาเป็นสถานที่ที่สำคัญและสวยงามอีกครั้ง จนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2534 และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศอินโดนิเซีย
จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้น ผู้จัดทำจึงได้ทำการสำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่อง บุโรพุทโธ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจองค์ความรู้อื่นเกี่ยวกับบุโรพุทโธเพื่อเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับบุโรพุทโธ เพื่อให้ทราบถึงข้อค้นพบ และประเด็นต่างๆที่เคยศึกษาเกี่ยวกับบุโรพุทโธ และนำไปใช้ในการต่อยอดและสร้างสรรค์งานใหม่ในรูปแบบ งานวิจัย เขียนหนังสือ ทำสารคดี โดยผู้จัดทำได้ใช้วิธีการศึกษาโดยการสำรวจเอกสารประเภท หนังสือ บทความ และสื่อวีดีทัศน์ จากแหล่งข้อมูลต่างๆเช่น ห้องสมุด ThaiLIS, Thaijo Youtube และเว็บไซต์อื่นๆ ทั้งจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2526 ถึง 2562 จำนวนทั้งสิ้น 18 รายการ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการศึกษาวิเคราะห์ในเรื่องบุโรพุทโธต่อไปในอนาคต เพราะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในหลากหลายมิติ เช่น ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะและสถาปัตยกรรม ศาสนา และการท่องเที่ยว
2.งานศึกษาจากเอกสารและวีดีทัศน์เกี่ยวกับบุโรพุทโธ
![]() |
ภาพถ่ายโดย mmoripidch |
การสำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องบุโรพุทโธ ตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ปี 2525-2562
ผู้ศึกษาได้ศึกษาโดยการสำรวจเอกสารประเภท หนังสือ บทความ และสื่อวีดีทัศน์ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ
เช่น ห้องสมุด ThaiLIS, Thaijo Youtube และเว็บไซต์อื่นๆ ทั้งจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2525 ถึง 2562
จำนวนทั้งสิ้น 18 รายการ ทั้งนี้ได้ จัดกลุ่มย่อยของเนื้อหาในแต่ละด้านที่มีการศึกษาไว้ 6 กลุ่ม ได้แก่
- ด้านประวัติศาสตร์
- ด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม
- ด้านการท่องเที่ยว
- ด้านศาสนาและความเชื่อ
- ด้านความรู้ทั่วไป
- สื่อวีดีทัศน์
2.1ด้านประวัติศาสตร์
ในการสำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องบุโรพุทโธด้านประวัติศาสตร์พบทั้งงานศึกษาทางประวัติศาสตร์อินโดนิเซียโดยตรงและงานศึกษาที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเอกสารที่ค้นพบอยู่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2526- 2557 พบทั้งสิ้น 4 ผลงาน
1. ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เล่ม 1 ดี.จี.อี ฮอลล์
2. อินโดนิเซีย:อดีตและปัจจุบัน ภูวดล ทรงประเสริฐ
3. ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia ไชนดิน เอลชา
4. ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย : เอกภาพแห่งความแตกต่าง อาณัติ อนันตภาค
งานชิ้นแรกของ ดี.จี.อี ฮอลล์ (2526) เรื่อง ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เล่ม 1
ถัดมาเป็นงานของ ภูวดล ทรงประเสริฐ (2539) เรื่อง อินโดนิเซีย:อดีตและปัจจุบัน
งานของ ไชนดิน, เอลชา (2552) เรื่อง ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia
งานชิ้นสุดท้ายของอาณัติ อนันตภาค (2557) เรื่อง ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย : เอกภาพแห่งความแตกต่าง
จบไปแล้วนะคะกับสำรวจสถานภาพความรู้เกี่ยวกับบุโรพุทโธในตอนที่ 1 ซึ่งก็ทำให้ทุคนทราบถึงที่มาที่ไปว่าทำำไมผู้เขียนถึงอยากจะสำรวจสถานภาพเรื่องนี้ และได้เห็นภาพรวมของงานในด้านประวัติศาสตร์ของบุโรพุทโธ ส่วนตอนนหน้านั้นจะเป็นภาพรวมเกี่ยวกับงานในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม รวมถึงด้านการท่องเที่ยว และงานด้านศาสนาและความเชื่อ สำหรับใครที่สนใจในงาน 2 หมวดนี้รอติดตามกันต่อไปได้เลยจ้า 💗
อ้างอิง
ไชนดิน, เอลชา.(2552).ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์.
ในการสำรวจสถานภาพความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องบุโรพุทโธด้านประวัติศาสตร์พบทั้งงานศึกษาทางประวัติศาสตร์อินโดนิเซียโดยตรงและงานศึกษาที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเอกสารที่ค้นพบอยู่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2526- 2557 พบทั้งสิ้น 4 ผลงาน
1. ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เล่ม 1 ดี.จี.อี ฮอลล์
2. อินโดนิเซีย:อดีตและปัจจุบัน ภูวดล ทรงประเสริฐ
3. ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia ไชนดิน เอลชา
4. ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย : เอกภาพแห่งความแตกต่าง อาณัติ อนันตภาค
งานชิ้นแรกของ ดี.จี.อี ฮอลล์ (2526) เรื่อง ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เล่ม 1
งานชิ้นนี้เป็นงานที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งในโลกวิชาการมีจุดประสงค์เพื่อใช้ประกอบการศึกษาในเรื่องราวต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่สมัยการตั้งถิ่นฐานของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงปีค.ศ.1816 ที่แรฟเฟิลพ้นจากตำแหน่ง มีการแบ่งการนำเสนอเป็น 27 บท โดยเรียงตามเหตุการณ์สำคัญในแต่ละปี งานชิ้นนี้ได้กล่าวถึงบุโรพุทโธไว้ว่าราชวงศ์ไศเลนทร์เป็นผู้สร้างโบราณสถานใหญ่โตทางพระพุทธศาสนาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 8-9 ในดินแดนชวากลาง ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มหัศจรรย์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้นักประวัติศาสตร์หลายท่านเริ่มสนใจที่จะเข้ามาศึกษาในสถานที่แห่งนี้ บุโรพุทโธแสดงให้เห็นถึงความเจริญสูงสุดในศิลปะของราชวงศ์ไศเลนทร์ มีลักษณะสถูปมโหฬารในระเบียงหินซ้อนเป็นชั้นๆ ครอบส่วนบนของเนินเขาธรรมชาติ บนยอดเป็นลานตัดราบนั้นสร้างสถูปสูง 150 ฟุต ผนังรอบๆมีการประดับด้วยภาพสลักนูนต่ำของศาสนาพุทธมหายานหลายพันภาพ มีพระพุทธรูปประดับกว่า 400 องค์ ฐานของสถูปมีภาพสลักเรื่องกฎแห่งกรรม ปัจจุบันส่วนฐานที่ถูกปิดด้วยแผ่นหินใหญ่ ตอนที่ญี่ปุ่นเข้ามาได้รื้อตามฐานออกและไม่ปิดหินที่รื้อกลับเข้าที่เดิมทำให้เห็นภาพสลักนูนได้ชัดเจน บุโรพุทโธเปรียบเสมือนตำราศาสนาพุทธมหายาน ในด้านงานประติมากรรมมีการนำเอาศิลปะอินเดียมาปรับเปลี่ยนเข้ากับประเพณีของตนเอง จุดเด่นของงานชิ้นนี้ทำให้เห็นถึงพัฒนาการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ตั้งถิ่นฐานของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงปีค.ศ.1816 ที่แรฟเฟิลพ้นจากตำแหน่ง และได้รู้ความเป็นมาของบุโรพุทโธและลักษณะของบุโรพุทโธพอสังเขป ผู้เขียนเป็นศาสตราจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนได้รับขนานนามว่า “A Chief Historian of South-East Asia”รวมถึงเป็นหนังสืออ้างอิงที่สำคัญ มีการปรับปรุงเนื้อหาอยู่เรื่อยๆเพื่อให้ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริง หากสนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับศิลปะของบุโรพุทโธควรศึกษางานชิ้นอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะชวาหรืองานเรื่องบุโรพุทโธประกอบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น
ถัดมาเป็นงานของ ภูวดล ทรงประเสริฐ (2539) เรื่อง อินโดนิเซีย:อดีตและปัจจุบัน
งานชิ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของอินโดนิเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเป็นตำราทางวิชาการ รวมถึงเป็นหนังสืออ้างอิงสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับอินโดนิเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการนำเสนอในลักษณะประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์ มีการแบ่งการนำเสนอเป็น 7 บท โดยแบ่งตามวิวัฒนาการที่สำคัญในอินโดนิเซีย เนื้อหาของเรื่องบุโรพุทโธจะอยู่ในสมัยอินโดนิเซียยุคโบราณ กล่าวถึงบุโรพุทโธว่าในสมัยพระเจ้าไศเลนทร์ได้หันมานับถือพระพุทธศาสนามหายานอย่างแพร่หลาย กษัตริย์มีการทำนุบำรุงศาสนาโดยการสร้างวัดขนาดใหญ่ทั่วเกาะชวา บุโรพุทโธตั้งอยู่ชวาภาคกลางสร้างใน ค.ศ.772 มีการใช้เวลาก่อสร้างยาวนานตลอดปลายคริสต์ศตวรรษที่ 8 จนกลายเป็นพุทธสถานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จุดเด่นงานชิ้นนี้ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการของประเทศอินโดนิเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการบอกระยะเวลาก่อสร้างของบุโรพุทโธที่ยาวนานซึ่งในงานชิ้นอื่นไม่ได้บอกในส่วนนี้ มีการใช้แผนที่และภาพประกอบและมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างละเอียด รวมทั้งจากหนังสือของ D G E Hall แต่จุดด้อยคือ ควรมีรูปภาพประกอบเกี่ยวกับบุโรพุทโธเพื่อให้เห็นถึงพุทธสถานที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก หากสนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับบุโรพุทโธควรศึกษางานชิ้นอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น
งานของ ไชนดิน, เอลชา (2552) เรื่อง ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia
งานชิ้นนี้มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับลักษณะของประเทศ รวมถึงประชาชนอินโดนิเซีย และภาพรวมพัฒนาการของประเทศอินโดนิเซียตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งถึงสมัยได้รับเอกราช มีการแบ่งการนำเสนอเป็น 4 ภาคใหญ่และ 11 บทย่อย เนื้อหาบุโรพุทโธจะอยู่ในส่วนกษัตริย์แห่งภูเขาและราชาแห่งเกาะต่างๆ (ค.ศ.750-ค.ศ.900) กล่าวถึงว่า ในค.ศ.750 และ 850 มีการสร้างปูชนียสถานในพระพุทธศาสนาที่น่าประทับใจในชวาภาคกลาง คือ บุโรพุทโธ มีการออกแบบตามความคิดทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลและภาพสลักระเบียงสี่ด้านเกี่ยวกับพุทธประวัติ มีลักษณะเป็นรูปโดมขนาดใหญ่ เป็นสถูปรอบๆเนินเขาเตี้ย ใต้ฐานเจดีย์เป็นภาพสลักรูปกฎแห่งกรรม ตามระเบียงสี่ด้านที่อยู่สูงขึ้นไปจะแสดงให้เห็นโลกในรูปแบบต่างๆ หากเลี้ยวซ้ายจากบันไดกลางขึ้นไปจะเห็นลานกว้าง ระเบียงไม่มีหลังคา มีลูกกรงทางซ้ายและมีจารึกคำสอนอยู่บนฝาผนังด้านในพร้อมด้วยภาพพุทธประวัติ 1,300 ภาพ ต่อมาเมื่อพ้นจากรูปต่างๆเป็นลานกลมกว้าง ไม่มีขอบเขต มีสถูปหิน 72 สถูปเรียงรายโดยรอบ และมีสถูปใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง แสดงให้เห็นถึงนิพพานเป็นสัญลักษณ์ ของความว่างเปล่า สถูปเล็กๆจะบรรจุพระพุทธรูปจำนวนมาก บุโรพุทโธไม่ใช่ตัวแทนของพุทธจักรวาลและเป็นทางบรรลุนิพพานเท่านั้น แต่เป็นสถานที่บรรจุพระศพกษัตริย์ของราชวงศ์ไศเลนทร์ที่ถวายพระเพลิงและฝังศพไว้บนพื้นฐานชั้นต้นๆ ของสิ่งก่อสร้างนี้ จึงผูกโยงปูชนียสถานในพุทธศาสนาไว้กับการบูชาบรรพบุรุษรุ่นเดิมและเจดีย์ยอดแหลมกว้างแบบอินโดนิเซียแท้ๆในสมัยก่อนได้รับอิทธิพลฮินดูและพระพุทธศาสนา จุดเด่นของงานชิ้นนี้ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อินโดนิเซียสมัยโบราณจนกระทั่งถึงสมัยได้รับเอกราช รวมถึงสภาพภูมิศาสตร์ และประชากรของอินโดนิเซีย มีการให้เชิงอรรถและบทความเพื่อศึกษาเพิ่มเติม มีแผนที่และรูปภาพประกอบการนำเสนอ ในหน้าสุดท้ายมีการสรุปเหตุการณ์สำคัญในอินโดนิเซีย ส่วนในเนื้อหาบุโรพุทโธมีการให้เนื้อหาของประวัติความเป็นมาและลักษณะของบุโรพุทโธพอสังเขป มีภาพประกอบ แต่ยังไม่ลงรายละเอียดในเรื่องศิลปะมากนัก และระบุแหล่งอ้างอิงข้อมูลจากหนังสือของ D G E Hall งานชิ้นนี้เป็นอีกงานที่ควรค่าแก่การศึกษาประวัติศาสตร์และพัฒนาการของประเทศอินโดนิเซีย
งานชิ้นสุดท้ายของอาณัติ อนันตภาค (2557) เรื่อง ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย : เอกภาพแห่งความแตกต่าง
มุ่งนำเสนอประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปของอินโดนิเซีย โดยการนำเสนอไม่ได้นำเสนอในรูปวิชาการมากนักแบ่งการนำเสนอเป็น 13 ตอน มีการพูดถึงเรื่องบุโรพุทโธในสมัยยุคต้น:ชวาตอนกลาง กล่าวว่าในสมัยราชวงศ์ไศเลนทร์มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ คือ บุโรพุทโธ ในราวค.ศ.800 ตั้งอยู่ในที่ราบกีดู ในชวาภาคกลาง ฐานประกอบด้วยหินรูปสี่เหลี่ยม 6 ชั้นซ้อนกันขึ้นไป ชั้นล่างใหญ่สุดและถัดไปเล็กลงตามลำดับตามผนังของหิน มีภาพสลักนูนต่ำจำนวนมาก ต่อจากชั้นรูปสี่เหลี่ยมขึ้นไปจะเป็นรูปกลมอีก 3 ชั้น แต่ละชั้นมีเจดีย์ทรงกลมแบบลังกาองค์เล็กๆสร้างอยู่โดยรอบตรงกลางของชั้นบนมีเจดีย์องค์ใหญ่ที่สุดซึ่งถือเป็นส่วนยอดของเจดีย์ มีลักษณะเป็นศิลปะสมัยคุปตะผสมผสานกับศิลปะชวา ต่อมาเมื่ออีกราชวงศ์ซึ่งนับถือศาสนาพราหมณ์ไศวนิกายเข้ามาทำให้ศาสนสถานถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน จนกระทั่งสมัยฮอลันดาเข้ามาก็มีการซ่อมแซมโบราณสถานนี้อีกครั้ง จุดเด่นของงานชิ้นนี้ดำเนินเรื่องโดยใช้ภาษาที่ไม่วิชาการมาก มีภาพประกอบ ทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
สรุป ด้านประวัติศาสตร์
งานที่พบจะเป็นประเภทหนังสือทั้งหมด 4 เล่ม โดยเนื้อหาที่ได้ศึกษานั้นพบทั้งงานศึกษาที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อินโดนิเซียโดยตรงและงานศึกษาที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื้อส่วนมากจะแสดงให้เห็นถึงราชวงศ์ไศเลนทร์ที่ก่อสร้างบุโรพุทโธซึ่งเป็นพุทธสถานที่ยิ่งใหญ่ของชวาภาคกลางที่ยาวนานตั้งแต่ ค.ศ.772 ถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 8 มีการบรรยายลักษณะของบุโรพุทโธพอสังเขปว่ามีลักษณะศิลปะแบบคุปตะผสมผสานกับศิลปะแบบชวา มีการออกแบบตามคติของพระพุทธศาสนา มีภาพสลักนูนต่ำเกี่ยวกับพุทธประวัติและกฎแห่งกรรม ฐานประกอบด้วยหินรูปสี่เหลี่ยม 6 ชั้นซ้อนกันขึ้นไป ชั้นล่างใหญ่สุดและถัดไปเล็กลงตามลำดับตามผนังของหิน พอขึ้นไปด้านบนจะเป็นลานกว้างมีสถูปหินเรียงอยู่รายรอบ มีสถูปใหญ่อยู่ตรงกลางที่แสดงถึงนิพพาน หากสนใจในรายละเอียดเกี่ยวกับศิลปะของบุโรพุทโธควรศึกษางานชิ้นอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะชวาหรืองานเรื่องบุโรพุทโธประกอบเพื่อความเข้าใจมากขึ้น โดยหนังสือของ D G E Hall เป็นเอกสารอ้างอิงหลักที่สำคัญ
จบไปแล้วนะคะกับสำรวจสถานภาพความรู้เกี่ยวกับบุโรพุทโธในตอนที่ 1 ซึ่งก็ทำให้ทุคนทราบถึงที่มาที่ไปว่าทำำไมผู้เขียนถึงอยากจะสำรวจสถานภาพเรื่องนี้ และได้เห็นภาพรวมของงานในด้านประวัติศาสตร์ของบุโรพุทโธ ส่วนตอนนหน้านั้นจะเป็นภาพรวมเกี่ยวกับงานในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม รวมถึงด้านการท่องเที่ยว และงานด้านศาสนาและความเชื่อ สำหรับใครที่สนใจในงาน 2 หมวดนี้รอติดตามกันต่อไปได้เลยจ้า 💗
อ้างอิง
ไชนดิน, เอลชา.(2552).ประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย = A short history of Indonesia.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์.
ดี.จี.อี, ฮอลล์, (2526). ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เล่ม 1. วรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ คณะ ผู้แปล, กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และ มนุษยศาสตร์.
ภูวดล ทรงประเสริฐ.(2539).อินโดนิเซีย:อดีตและปัจจุบัน.(พิมพ์ครั้งที่ 1).กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อาณัติ อนันตภาค.(2557).ประวัติศาสตร์อินโดนิเซีย เอกภาพแห่งความแตกต่าง.(พิมพ์ครั้งที่ 1).กรุงเท :ยิบซีสำนักพิมพ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น